10 สุดยอด ตอนที่1 : นักเตะหมายเลข 10

10.ไมเคิล เลาดรู๊ป

ไมเคิล เลาดรู๊ป 1 ในนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ได้เล่นกับ บาร์เซโลนา และเรอัล มาดริด คู่ปรับแห่งวงการฟุตบอลสเปน โดยสมัยที่อยู่กับบาร์ซ่า ไมเคิล เลาดรู๊ป เป็นหนึ่งในแข้งชุดดรีมทีมของ โยฮัน ครัฟฟ์ และได้กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานแห่งถิ่นคัมป์ นู ขณะที่ ฮอร์เก้ บัลดาโน กุนซือเรอัล มาดริด ในยุคนั้น ยกย่อง เลาดรู๊ป ว่าเล่นบอลฉลาด เอาตัวรอดได้ราวกับว่าตัวเองมีตาอยู่รอบตัว “sbobet
น่าเสียดายที่ เลาดรู๊ป ไม่ได้ชื่นชมความสำเร็จและเกียรติยศในฐานะแชมป์เมเจอร์มากนักเนื่องจากมีปัญหากับกุนซือ โดยในปี 1992 เขาไม่ลงรอยกับ ริชาร์ด โมลเลอร์ นีลเซน จนถูกขับออกจากทีมชาติเดนมาร์ก ชุดที่สร้าง “เทพนิยายเดนส์” คว้าแชมป์ยูโร 1992 นอกจากนี้ เลาดรู๊ป ยังมีปัญหาส่วนตัวกับ โยฮัน ครัฟฟ์ ทำให้ไม่มีชื่อร่วมทีมบาร์เซโลนา ลงเล่นนัดชิงปี 1994 ที่แพ้ เอซี มิลาน แบบราบคาบด้วย

9.รุย คอสต้า
จอมทัพแดนฝอยทองเป็นนักเตะที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องลูกจ่ายทะลุช่องที่เฉียบคม ฉีกแนวรับฝั่งตรงข้ามเป็นชิ้นๆ ซึ่งน่าจะถือเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ของนักเตะหมายเลข 10 ทุกคน
เขา สร้างชื่อให้ยุโรปรู้จักด้วยการจับคู่กับกาเบรียล บาติสตูต้า ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจในทีมฟิออเรนตินา ก่อนจะออกมาค้าแข้งกับเอซี มิลาน และกลับไปปิดฉากชีวิตค้าแข้งที่เบนฟิก้า สโมสรที่เขาเคยเล่นตั้งแต่สมัยเยาวชน
ส่วนในทีมชาติ นี่คือจอมทัพของทีมชาติโปรตุเกสยุคทองที่เคยคว้าเยาวชนโลกเมื่อปี 1991 รวมถึงเกือบคว้าแชมป์ยูโรในปี 2004 แม้จะไม่มีรางวัลในระดับชาติมาครอบครอง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมแดนฝอยทองในยุคของเขา คือทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด นับตั้งแต่หลังยูเซบิโอเป็นต้นมา

8. โลธาร์ มัทเธอุส
“ซูเปอร์แมน” โลธาร์ มัทเธอุส อาจเป็นหมายเลข 10 ที่แตกต่างจากคนอื่น เมื่อไม่ได้มีลีลาสวยงามมากมายนัก แต่ถ้าพูดถึงความทรงพลังและประสิทธิภาพ ต้องยอมรับว่าคุณสมบัติในฐานะนักฟุตบอลของเขามีไม่แพ้ใคร เขาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 เมื่อในนัดชิงชนะเลิศ เป็นคนรับหน้าที่ตามประกบดิเอโก้ มาราโดนา แบบถึงพริกถึงขิงไม่ยอมปล่อยให้หายใจง่ายๆ
มัทเธอุสคือตัวแบบของนัก เตะในสไตล์เยอรมันขนานแท้ ที่อาจไม่ได้มีจินตนาการสร้างสรรค์ล้นเหลือ แต่มีความฟิต แข็งแกร่ง และรวดเร็ว จนอาจเรียกได้ว่า เขาเป็นกองกลางประเภท “บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์” ที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง ส่วนในระดับสโมสร เขายังเป็นหัวใจของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ทั้งบาเยิร์น มิวนิค และอินเตอร์ มิลาน ก่อนจะขยับลงมาเล่นเป็นตัวลิเบอโรในช่วงปลายของชีวิตค้าแข้ง นอกจากนี้ มัทเธอุสยังครองสถิติเป็นนักเตะที่ได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกถึง 5 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 25 นัด มากกว่านักฟุตบอลคนใดที่เคยค้าแข้งมา
คำนิยามของมาราโดนาที่บอกว่า มัทเธอุสเป็น “คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยมี” น่าจะนิยามความยอดเยี่ยมของขุนพลอินทรีเหล็กหมายเลข 10 คนนี้ได้เป็นอย่างดี

7.ซิโก้
“เปเล่ขาว” ซิโก้ อาจเป็นอัจฉริยะที่อาภัพที่สุดคนหนึ่ง เมื่อเขาเป็นจอมทัพของทีมชาติบราซิลชุดที่ดีที่สุดที่ไม่ได้แชมป์โลก และต้องชอกช้ำในทัวร์นาเมนต์สำคัญทั้งหลายเรื่อยมา เกมรอบแปดทีมสุด ท้าย ฟุตบอลโลก 1986 ที่บราซิลพบฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเกมที่โลกยอมรับว่าคลาสสิคที่สุดตลอดกาล เมื่อซิโก้ต้องเปิดฉากดวลกับอีกหนึ่งสุดยอดหมายเลข 10 ของโลก อย่างมิเชล พลาตินี และกลับกลายเป็นว่าซิโก้ต้องชอกช้ำจากการดวลจุดโทษตัดสินในท้ายที่สุด
แม้ จะครองความยิ่งใหญ่ในแผ่นดินอเมริกาใต้กับฟลาเมงโกมาอย่างยาวนาน แต่ซิโก้กลับได้ค้าแข้งในยุโรปกับอูดิเนเซเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ก่อนที่บั้นปลายชีวิตเขาจะไปเล่นในญี่ปุ่นและกลายเป็นขวัญใจของแดนปลาดิบ รวมถึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้เจลีกบูมในยุคเริ่มต้น และนั่นคือบทพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของหมายเลข 10 คนนี้ได้เป็นอย่างดี

6.จอร์จี้ ฮาจี้
“มาราโดนาแห่งเทือกเขาคาพาเธียน” คือชื่อที่โลกมอบให้อัจฉริยะลูกหนังแห่งยุโรปตะวันออก หรือคนไทยอาจคุ้นเคยสมญา “มาราโดนาแห่งคาบสมุทรบอลข่าน” มากกว่า แต่ทั้งสองชื่อยืนยันถึงความเป็นเลิศทางด้านฟุตบอลของ จอร์จี้ ฮาจี้ได้เป็นอย่างดี ฮาจี้เป็นมิดฟิลด์หมายเลข 10 ที่ครบเครื่อง มีทั้งลูกจ่าย การเลี้ยงบอล และลูกยิงไกลเป็นเครื่องหมายการค้า โดยเฉพาะลูกใบไม้ร่วงรวมถึงลูกยิงตั้งแต่เกือบกลางสนาม ที่เขาทำประตูได้สวยๆ หลายครั้ง
นอกจากเป็นตำนานที่มีชีวิตของทีม ชาติโรมาเนีย เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลของทีมผีดิบแล้ว จอร์จี้ ฮาจี้ ยังเคยค้าแข้งกับสโมสรดังอย่างบาร์เซโลนา รวมถึงพากาลาตาซารายไปถึงแชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อฤดูกาล 1999-00 อีกด้วย

5.ซีเนดีน ซีดาน
สมัยยังเป็นดาวรุ่ง ซีเนดีน ซีดาน เคยได้รับการคาดหมายว่าจะเป็น “นิว พลาตินี” แห่งวงการฟุตบอลฝรั่งเศส แต่เจ้าตัวพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถไปได้ไกลกว่านั้น เมื่อคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่พลาตินีไม่เคยได้สัมผัสมาครองในปี 1998 ส่วนในฟุตบอลยุโรป ซีดานก็เคยได้ชูถ้วยยูโร 2000 เช่นกัน ซีดานถือ เป็นกำลังสำคัญของทีมทั้งในระดับชาติและสโมสร ด้วยทักษะครองบอลที่เหนือชั้น การเล่นเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม และอาศัยความสามารถเฉพาะตัวขับเคลื่อนเกมที่เขารับหน้าที่บัญชาได้อย่างไหล ลื่นไร้ที่ติ ความล้มเหลวของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2002 และยูโร 2004 ซึ่งเป็นช่วงที่ซีดานไม่ค่อยฟิตสมบูรณ์
และการกลับมาเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ซีดานสำคัญแค่ไหนในยุครุ่งเรืองของเขา น่าเสียดายที่ฉากจบที่ไม่ค่อยสวยในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ที่เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และการไม่ได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ประจำในระดับสโมสรเพราะติดเจ้าของสัมปทานเก่า ทำให้เขาไม่ได้เป็นหมายเลข 10 ที่อยู่ในอันดับสูงกว่านี้ แม้เรื่องฝีเท้าจะไม่เป็นรองใครก็ตาม

4.โรแบร์โต บาจโจ้
“เทพบุตรเปียทองคำ” น่าจะถือได้ว่าเป็นต้นฉบับของ เทรควอร์ติสต้า (Trequartista – กลางรุกหรือหน้าต่ำ) จากอิตาลี และน่าจะถือเป็นหมายเลข 10 ที่คลาสสิคที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนังมักกะโรนี
บาจโจ้ อาจอาภัพในทีมชาติ เมื่อเขาเป็นคนยิงจุดโทษข้ามคานในฟุตบอลโลก 1994 และถือเป็นช็อตคลาสสิคอีกหนึ่งฉากในโลกลูกหนัง แต่เขาก็เป็นคนพาทีมชาติอิตาลีในยุคนั้นเข้าไปถึงรอบชิง เมื่อเป็นคนเล่นลูกตัดสินเกมลูกแล้วลูกเล่าในรอบน็อคเอาท์
ขณะเดียวกันประตูในฟุตบอลโลก 1990 ที่เขาโซโลเดี่ยวเข้าไปยิง เช็คโกสโลวาเกีย ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่มากมาย
ส่วนในระดับสโมสร เขาประสบความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งกับฟิออเรนตินา, ยูเวนตุส และเอซี มิลาน นอกจากนี้เขายังเคยคว้าบัลลงดอร์มาครองได้อีก 1 สมัย แม้ต็อตติและเดล ปิเอโร จะถือเป็นอีกสองเบอร์ 10 ที่ยิ่งใหญ่
แต่เมื่อเทียบกับบาจโจ้แล้ว อาจจำเป็นต้องใช้คำว่า “คนละคลาส” มาอธิบาย

3.มิเชล พลาตินี
“นโปเลียนลูกหนัง” มิเชล พลาตินี คือตำนานหมายเลข 10 ผู้ยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสที่อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ทำให้หมายเลขนี้คงความขลัง ในดินแดนตราไก่ รวมถึงกับสโมสรยูเวนตุสที่เขาเป็นเจ้าของหมายเลขศักดิ์สิทธิอยู่นานถึง 6 ปี
ใน ระดับชาติ เขาอาจไม่เคยพาทีมฝรั่งเศสไปถึงฟุตบอลโลกเหมือนซีเนดีน ซีดาน รุ่นน้องในทีมชาติ แต่ก็เป็นหัวใจสำคัญที่พาพลพรรคตราไก่ไปถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปในปี 1984
นอกจากจะมีลูกจ่ายที่เฉียบคม เทคนิคดี และมีทัศนะกว้างไกลเหมือนผู้เล่นหมายเลข 10 คนอื่นๆ พลาตินียังถือเป็นจอมปั่นฟรีคิกและตัวทำประตูชั้นเยี่ยม ผลงาน 41 ประตูในนามทีมชาติ
เป็นอันดับสองตลอดกาลของฝรั่งเศส ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก คือ สิ่งยืนยันถึงความเด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์ของเขาได้เป็นอย่างดี

2.ดิเอโก้ มาราโดนา/เปเล่ /“sbobet
อาจเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันไม่รู้จบว่าใครเหนือกว่าใคร สำหรับดิเอโก้ มาราโดนาและเปเล่ ซึ่งการคัดเลือกสุดยอดหมายเลข 10 ของเราในครั้งนี้ก็เจอปัญหาแบบเดียวกันดิเอโก้ มาราโดนา เป็นทั้งพระเจ้าของอาร์เจนตินาและสโมสรนาโปลี
จากการผลักดันให้ทั้งสองทีมประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยฝีเท้าฟ้าประทานของเขาความคลาสสิคของมาราโดนาคือการเป็นทั้ง “พระเจ้า” และ “ซาตาน” ในคนเดียวกัน
เมื่อมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม หากไม่นับรวมเรื่องยาเสพติดที่ทำให้ชีวิตค้าแข้งมีรอยด่างพร้อย ตัวอย่างแบบง่ายๆ ก็คือเกมพบอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986 ที่มาราโดนาทำ “หัตถ์พระเจ้า” ตบบอลเข้าประตู ก่อนจะลากเลื้อยผ่านกองหลัง 5 คน และเป็นประตูที่สวยงามที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
ความ “เทพ” และ “มาร” ที่ห่างกันเพียงไม่กี่นาทีเช่นนี้ มีเพียงมาราโดนาคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครเสมอเหมือน
“เปเล่”เหตุผลสำคัญที่เปเล่คือเบอร์ 10 หมายเลขหนึ่ง เพราะเขาเป็นต้นฉบับ เป็นต้นตำรับ และเป็นที่มาว่าทำให้หมายเลขนี้ที่กลางหลังเสื้อถึงได้ขลังหนักหนา “เอ ดซง อารังชีส ดู นาซีเมงตู” ทำได้เกินกว่า 1,000 ประตูตลอดชีวิตค้าแข้ง ทำแฮตทริคได้มากที่สุด 92 ครั้ง
รวมกับแชมป์ฟุตบอลโลกอีก 3 สมัย ถือเป็นสถิติที่มหัศจรรย์ไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม แม้ทัศนะด้านฟุตบอล ของเขาจะเป็นที่น่ากังขา เมื่อออกมาฟันธงเมื่อไหร่ก็ผิดเมื่อนั้น
แต่ถ้าพูดถึงผลงานในสนาม เขาคือตำนาน เป็นคิงออฟฟุตบอล ที่ไม่มีทางเสื่อมคลายไปตามกาลเวลา

1.โอโซระ สึบาส
พระเอกของการ์ตูนเรื่องนี้ ผู้มีวลีเด็ด “ฟุตบอลคือเพื่อน” ความรักในฟุตบอลทำให้เขาเป็นเทพเจ้าลูกหนังของเรื่อง
ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร เก่งแค่ใหน ท่าไม้ตายจะสุดมหัศจรรย์แค่ใหน
ก็ต้องแพ้ให้กับ โอโซรา ซึบาสะ ผู้นี้ เพราะว่าเขาคือ…พระเอก ! Hahahaa

คิดถึง “แทงบอลออนไลน์ ” คิดถึง “sbobet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *