ไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด VS แมนฯ ซิตี้

Sbobet เผยไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด VS แมนฯ ซิตี้

ทีมข่าวแทงบอลออนไลน์ของ Sbobet เผยถึงโรเมลู ลูกากู ว่าหวังดีประสงค์ร้ายลงมาช่วยเกมรับแต่บอลโดนเขาทำให้ทีมเสีย 2 ประตูหนึ่งในนั้นคือลูกยิงตัดสินเกมจาก นิโคลัส โอตาเมนดี้ ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเฉือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 นำโด่งจ่าฝูงทิ้ง 11 แต้มและทำสถิติชนะในพรีเมียร์ลีก 14 นัดรวดสูงสุดตลอดกาลเท่า อาร์เซน่อล ส่วน ปีศาจแดง เสียสถิติไม่แพ้ในบ้าน 40 นัดซ้อนด้วยน้ำมือ เรือใบสีฟ้า ทีมเดิม!!!

ทีมข่าวแทงบอลออนไลน์ของ Sbobet เผยความเคลื่อนไหวก่อนเกม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนแผนจากนัดเฝ้าหลุมเฉือน ซีเอสเคเอ มอสโก 2-1 จาก 3-4-3 เป็น 4-2-3-1 และปรับผู้เล่น 6 ตำแหน่งคือ ดาบิด เด เคอา, มาร์กอส โรโฮ, แอชลี่ย์ ยัง, เนมานย่า มาติช, เจสซี่ ลินการ์ด, โรเมลู ลูกากู กลับมาลงตัวจริงแทน เซร์คิโอ โรเมโร่, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ดาลี่ย์ บลินด์, ลุค ชอว์, ฆวน มาต้า และกำลังสำคัญซึ่งติดโทษแบนอย่าง ปอล ป๊อกบา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยน 7 ตำแหน่งจากนัดบุกไปโดน ชัคตาร์ โดเนตส์ค เปิดซิง 1-2 คือ ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโคลัส โอตาเมนดี้, แว็งซองต์ กอมปานี, ฟาเบียน เดลฟ์, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลับมาลงตัวจริงแทน ดานิโล่, โทซิน อดาราบิโอโย่, เอเลียควิม ม็องกาล่า, ฟิล โฟเด้น, ยาย่า ตูเร่, อิลคาย กุนโดกัน และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา รวมถึงปรับแผนจาก 3-4-3 เป็น 4-3-3 ด้วย

รูปเกมการแข่งขันเป็นอย่างไร ตามทีมข่าวเว็บแทงบอลออนไลน์ของ Sbobet ไปดูกัน

  • นาทีที่ 4 เปิดฉากแป๊ปเดียว แมนฯ ซิตี้ บุกจากขวาไปซ้ายของหน้าจอรับใบเหลืองก่อนนั่นคือ ไคล์ วอล์คเกอร์ เสียเหลี่ยมเข้าช้าใส่ อันเดร์ เอร์เรร่า ในจังหวะสวนกลับ
  • นาทีที่ 10 ซิตี้ เริ่มเตือนเจ้าบ้านโดย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แทงทะลุช่องมาในกรอบด้านซ้ายให้ กาเบรียล เชซุส โฉบมารับบอลหลุดเดี่ยวแล้วแต่ดันเลือกตอกส้นเข้ากลางไม่มีเพื่อนชาร์จเสียโอกาสทองไป
  • นาทีที่ 15 จังหวะจบครั้งแรกของ เรือใบสีฟ้า เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ แย่งบอลจาก แอชลี่ย์ ยัง ได้ทางขวาจ่ายเข้ากลางมาให้ สเตอร์ลิ่ง ทิ่มไปในกรอบฝากที่ เชซุส แปะคืน สเตอร์ลิ่ง เกี่ยวเข้ากรอบฝั่งซ้ายแล้วกดเรียด ดาบิด เด เคอา รับไว้ได้
  • นาทีที่ 16 โอกาสอีกครั้งของเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญโดย แฟร์นานดินโญ่ ผ่านบอลจากกลางสนามทะลุไปทางขวาให้ เชซุส สับหลอก มาร์กอส โรโฮ ล้มก้นจ้ำเบ้าหลุดเข้าเขตโทษแต่จบไม่สวยยิงบดตรงตัว เด เคอา รับสบายเสียของไปอีกครั้ง
  • นาทีที่ 21 ยักษ์ใหญ่สีฟ้าแห่งเมืองแมนฯลุ้นเอาจุดโทษเมื่อ เชซุส พาบอลจี้เข้ากรอบฝั่งซ้ายหลบ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ไปได้ก่อนคลึงหลบ คริส สมอลลิ่ง แล้วทิ้งตัวล้มไปดื้อๆไม่ได้โดนปะทะเลยซึ่งผู้ตัดสิน ไมเคิล โอลิเวอร์ ก็รู้ทันไม่เป่าฟาวล์
  • นาทีที่ 30 ปีศาจแดง ลุ้นเล็กๆในจังหวะสาดบอลยาวข้ามแนวรับทีมเยือนให้ เจสซี่ ลินการ์ด สปรินท์เร็วจี๋ตามไปแต่ วอล์คเกอร์ ก็เร็ววิ่งลงมาช่วยพัวพันซื้อเวลาให้ เอแดร์สัน โมราเอส ออกไปถึงบอลก่อนแถมโชว์จ่ายบอลมาให้เพื่อนเล่นต่ออย่างใจเย็น
  • นาทีที่ 37 คนของ แมนฯ ยูไนเต็ด รับใบเหลืองบ้างคือ โรโฮ ในจังหวะกระโดดกระแทก ดาบิด ซิลบา จากข้างหลังแต่ศีรษะชนกันด้วยโดย ซิลบา เจ็บท้ายทอยแต่ลุกขึ้นได้ส่วน โรโฮ แตกได้เลือดต้องนอนให้แพทย์ทำแผลก่อนลุกขึ้นมาเล่นต่อไหว
  • นาทีที่ 43 ในที่สุด แมนฯ ซิตี้ ก็บุกนำ 1-0 จังหวะแรกโยนโด่งไปในกรอบทางขวา ยัง กระโดดโหม่งไม่ถึงบอลเลยไปที่ ลีรอย ซาเน่ พักบอลลงแล้วใส่เต็มข้อมุมแคบกะแสกหน้าแต่ เด เคอา ซูเปอร์เซฟปัดข้ามคานไป ! จากนั้นเตะมุมฝั่งขวา เด บรอยน์ โยนมา โอตาเมนดี้ โหม่งแฉลบ โรเมลู ลูกากู ไปหน้าประตู ดาบิด ซิลบา วอลเลย์ตามน้ำไม่กี่หลาตุงตาข่าย
  • นาทีที่ 45+2 กระนั้นช่วงทดเจ็บ ยูไนเต็ด ตีเสมอ 1-1 จังหวะโยนจากริมเส้นฝั่งซ้ายมาเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ โอตาเมนดี้ กระโดดโหม่งไม่ถึงปล่อยบอลตกในกรอบ ฟาเบียน เดลฟ์ ก็สกัดไม่โดนบอลเลยมาถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยแปด้วยขวาสวนตัว เอแดร์สัน เสียบเสาไกลอย่างเลือดเย็น

จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1 แต่เป็นฝ่ายแมนฯซิตี้ บุกอยู่ฝ่ายเดียว ในครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ดยังมีงานให้ต้องกลับไปแก้  ตามทีมข่าวแทงบอลออนไลน์ของ Sbobet ไปชมกันต่อครับ

  • นาทีที่ 46 ก่อนเริ่มครึ่งหลังทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวตำแหน่งเดียวกันโดย แมนฯ ยูไนเต็ด ส่ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ลงแทน โรโฮ ที่คงทนพิษบาดแผลไม่ไหวส่วน ซิตี้ ส่ง อิลคาย กุนโดกัน แทน กอมปานี ซึ่งน่าจะไม่ฟิตแล้วถอย แฟร์นานดินโญ่ ยืนหลังแทน
  • นาทีที่ 54 แมนฯ ซิตี้ ครึ่งหลังทำท่าจะดร็อปลงไปแต่กลับขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ฟรีคิกกราบซ้าย ซิลบา โยนเลยมาเสาสอง ลูกากู เตะสกัดโดนบั้นท้าย สมอลลิ่ง บอลเด้งกลับมาหน้าประตู นิโคลัส โอตาเมนดี้ รับส้มหล่นกระโดดวอลเลย์เผาขนตุงตาข่าย
  • นาทีที่ 59 จากนั้นไม่นาน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ เรือใบสีฟ้า เปลี่ยนอีกคนทันทีถอด เชซุส แล้วเติม เอเลียควิม ม็องกาล่า เล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟและดัน แฟร์นานดินโญ่ ขึ้นมาเล่นกลางรับตามเดิม
  • นาทีที่ 65 ซิตี้ หันมาเคาะบอลตามสูตรแล้วฉวยโอกาสทำเร็วทิ้งไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ซิลบา ตามเก็บดึจังหวะรอ ซาเน่ สอดจากข้างหลังแล้วไหลไปสุดเส้นให้ปีกเยอรมันเปิดเรียดมาหน้าประตูแต่ ยัง ซูเปอร์เซฟหุบไปสกัดไว้ก่อนบอลมาถึงตัวชาร์จที่เสาสอง
  • นาทีที่ 66 ยูไนเต็ด ยังเล่นอย่างอดทนจนกระทั่ง โอตาเมนดี้ ออกบอลพลาดเข้าเท้า เนมานย่า มาติช แปะมาที่ ลินการ์ด จ่ายสวนตามช่องไปทางขวาอย่างสวยให้ ลูกากู ลากไปใกล้กรอบจี้ใส่ ม็องกาล่า แตะออกขวาแล้วกดตู้มข้ามคานไปไม่ได้ลุ้น
  • นาทีที่ 70 จากนั้นชาวสีฟ้าตอบโต้ทันควันเมื่อเกมรับเจ้าบ้านเปิดช่องว่างตรงกลางให้ เดอ บรอยน์ เลี้ยงเจาะเข้าไปถึงหน้าหัวกระโหลกแล้วกดเรียดด้วยซ้าย เด เคอา ซูเปอร์เซฟพุ่งไปปัดออกหลังทันก่อนที่บอลจะเสียบเสาไกล
  • นาทีที่ 76 จังหวะจบอีกครั้งของ เรด เดวิลส์ จากการวางบอลยาวไปทางขวาให้ แรชฟอร์ด จับลงแต่งเข้าขวาแล้วสับไกดื้อๆเต็มเท้ายัดเสาแรกเลย เอแดร์สัน ต้องปัดออกไป ! จากนั้น ลินการ์ด โดนถอดและคนที่ลงแทนคือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
  • นาทีที่ 82 ยูไนเต็ด ลุ้นเอาจุดโทษบ้างในจังหวะที่บอลไหลไปในกรอบทางซ้าย เอร์เรร่า โฉบมาถึงก่อน โอตาเมนดี้ แล้วขาปะทะกันก่อนที่ พี่น้อย จะล้มลงไปแต่ไม่ได้ฟาวล์แถมโดนใบเหลือง ! จากนั้นไม่นานเขาก็ถูกถอดเปิดทาง ฆวน มาต้า ลงมาเสริมเกมรุก
  • นาทีที่ 85 โอกาสทองฝังเพชรของ ปีศาจแดง เมื่อ มาต้า แผลงฤทธิ์ตักบอลมาทางซ้ายในกรอบให้ มาร์กซิยาล ตวัดเร็วไปหน้าประตูถวายพาน ลูกากู ซัดเผาขนติดต้นคอ เอแดร์สัน มาเข้าทาง มาต้า หวดซ้ำก็ไม่ผ่าน เอแดร์สัน อีกก่อนที่ เดลฟ์ จะมาหวดทิ้งไป
  • นาทีที่ 90+4 จากนั้นถึงช่วงทดเจ็บ ซิตี้ เผาเวลาทั้งต่อบอลและลากมามุมธงจนกระทั่งนาทีสุดท้ายสบโอกาสฝังเมื่อ เดอ บรอยน์ วางบอลข้ามไปในกรอบฝั่งซ้ายให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตัวสำรองหลุดเดี่ยวลากไปยิงมุมแคบติดขา เด เคอา ออกหลัง

แล้วก็จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัยสุดสำคัญเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อนบ้านสีแดง 2-1 !!!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *