11 แข้งดรีมทีมจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

1.ปีเตอร์ ชไมเคิล (ผู้รักษาประตู)

อดีตมือกาวชาวเดนมาร์กของยูไนเตดรายนี้ ถูกไรอั้นกิ๊กส์เลือกเป็นผู้รักษาประตูมือ 1อย่างไร้ข้อกังขา จากผลงานในฤดูกาล 1992-93 พีททำคลีนชีตได้ถึง 22เกม จนช่วยให้แมนยูไนเตดได้แชมป์พรีเมียร์ลีก และผลงานนั้นทำให้เขาได้ถูกเลือกเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกในปี 1993 เขาเป็นหนึ่งในชุดปาฏิหาริย์ของทีมชาติเดนมาร์กในยูโร 1992 ในทัวร์นาเม้นต์นั้นเขาได้เซฟจุดโทษที่สำคัญของเกมของแวน บาสเท่นในรอบรองชนะเลิศ ช่วยให้เดนมาร์กเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ และได้แชมป์ยูโรครั้งนั้นในที่สุด แล้วทำให้เขาถูกเลือกเป็นผู้รักษาประตูแห่งปีครั้งแรกในปี 1992 ท่าเซฟปลาดาวที่รวดเร็วของปีเตอร์ได้สร้างความสำเร็จให้ทีมปีศาจแดงเข้าสู่ยุครุ่งเรืองอย่างรวดเร็วในตลอดช่วงยุค 90 จนกระทั่งเซอร์อเล็กเฟอร์กูสันบอกว่า เขาคือผู้รักษาประตูเบอร์ 1ตลอดกาลในผู้รักษาประตูทั้งหมดเท่าที่เคยใช้งาน


2.แกรี่ เนวิลล์ (แบ็คขวา)

หนึ่งในนักเตะที่ขึ้นมาจากอคาเดมี่ชุดคลาสออฟ 92 เขาถึงดันขึ้นมาในครั้งแรกเพื่อแทนพอล ปาร์คเกอร์ที่บาดเจ็บ และลี ชาร์ปที่ถูกย้ายไปเล่นในตำแหน่งปีกขวา ด้วยสไตล์การเล่นที่ค่อนข้างดุดัน เล่นเกมรับได้เหนียวแน่น และขยันตลอดเวลา ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะแบ็คขวาที่ดีที่สุดในทีมชาติอังกฤษ และยูไนเตดในยุคนั้น จากทักษะที่ชาญฉลาดในการอ่านเกมทำให้เขายังสามารถเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คได้อีกด้วย เมื่อครั้งที่แกรี่ได้ประสานงานกับเดวิด เบคแฮ่ม ทั้งคู่ได้มีส่วนช่วยให้ทีมเป็นทีมที่มีเกมรุกที่น่ากลัวที่สุดเลยทีเดียว ด้วยการที่แกรี่สอดขึ้นไปโอเวอร์แลบแล้วจ่ายบอลแอสซิสอย่างแม่นยำได้หลายต่อหลายครั้ง เนวิลล์คือนักเตะคนหนึ่งที่ช่างจ้ออย่างมากทั้งในสนาม และห้องแต่งตัว รวมถึงประสบการณืที่มากมาย ได้ทำให้เขาได้


3.เดนิส เออร์วิน (แบ็คซ้าย)

นักเตะชาวไอริชรายนี้ สร้างประตูให้กับทีมปีศาจแดงได้บ่อยครั้งจากลูกจุดโทษ และฟรีคิก ทำให้เขาได้เป็นตัวเลือกแรกของทีมในตำแหน่งนี้เหนือฟิล เนวิลล์ จนบางครั้งลูกยิงของเขาเคยถูกเอาไปเปรียบกับโรแบร์โต้ คาลอสเลยที่เดียว แต่ในบทบาทของกองหลังเดนิสได้แสดงให้เห็นถึงทักษะการเล่นที่โดดเด่นพอกับไหวพริบ การเล่นที่สวยงาม และเปี่ยมไปด้วยความฉลาดในการเล่น ทั้งหมดทำให้เขาได้รับฉายาว่า “True Grit” หินผาที่แท้จริง และ เซอร์อเล็กเฟอร์กูสันได้ตั้งฉายาให้ว่า “มิสเตอร์ คงเส้นคงวา” โดยได้บอลอีกว่า ถ้าเขาฟิต100% จะได้การันตีการลงเล่นแน่นอน รางวัลที่การันตีความสำเร็จในอดีตของเดนิสคือ ได้รางวัลทีมแห่งทศวรรษของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล1992/3 – 2001/2 และติดทีมแห่งทศวรรษพีเอฟเอ ปี1997–2007 ถือว่าเป็นแบ็คซ้ายในตำนานที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของสหราชอาญาจักรเลยที่เดียว


4.ริโอ เฟอร์ดินานด์ (เซนเตอร์แบ็ค)

ริโอเป็นผลผลิตของกองหลังที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จากความสามารถในการเล่นฟุตบอลบนพื้นที่จนได้รับความไว้วางใจเขาคือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดตลอดกาลในยุคนั้น และเป็นกองหลังที่ดีที่สุดของทีมชาติอังกฤษ เขาถูกยกย่องอย่างมากในเรื่องของความเร็ว และการเข้าสกัดที่เกิดการฟาวล์น้อยมาก รวมถึงการยืนตำแหน่ง และการอ่านเกม นอกจากนี้เขายังมีความแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศที่เป็นที่ไว้ใจได้ และประสิทธิภาพในความเป็นผู้นำทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากฟาบิโอ คาเปลโลให้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษก่อนที่จอห์น เทอร์รี่จะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง รางวัลที่การันตีความสำเร็จในอดีตของเจ้าปากเป็ดรายนี้คือการได้ติดทีมแห่งปีพีเอฟเอได้ถึง 6ครั้ง เป็นรองสตีเว่น เจอราดที่ได้รางวัลนี้มากที่สุดแค่ 2ครั้งเท่านั้น


5.เนมานย่า วิดิช (เซนเตอร์แบ็ค)

ปราการหลังชาวเซิร์บรายนี้ได้ย้ายเข้ามาในรั้วโอล์ดแทรฟฟอร์ดหลังทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลก 2006ด้วยค่าตัว แสนถูก เพียงแค่ 7ล้านปอนด์เท่านั้น ก่อนที่จะกลายมาเป็นคู่หูของริโอ เฟอร์ดินานด์ ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อนแล้ว วิดิชเป็กองหลังที่มีการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับร่างกายที่แข็งแกร่ง มีความเป็นผู้นำ และทรงประสิทธิภาพในลูกกลางอากาศ ช่วงเวลาในท๊อปฟอร์มของเขาคือเคยช่วยปีศาจแดงเก็บคลีนชีตได้ถึง 14เกมติดต่อกัน ในฤดูกาล 2008-09 ทำให้กลายเป็นนักเตะแห่งปีในฤดูกาลนั้นทันที แซงหน้าคริสเตียโน่ โรนัลโด้เพื่อนร่วมทีมที่มีผลงานร้อนแรงเ่นเดียวกัน วิดิชเป็นนักเตะที่มีความกล้าหาญที่สุดในสนามเสมอ จนได้รับการเปรียบเทียบบ่อยครั้งด้วยสไตล์การเล่นที่คล้ายกับสตีฟ บรูซ ตำนานชาวเซอเบียรายนี้ได้ถูกกล่าวยกย่องจากกองหน้าชื่อดังอย่างเธียร์รี่ อองรี และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่บ่อยครั้ง และผลงานของเขาจะถูกแฟนบอลของยูไนเต็ดจดจำไปอีกแสนนาน


6.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ปีกขวา)

นักเตะที่เก่งที่สุดในโลกคนปัจจุบันรายนี้ ถูกไรอั้น กิ๊กส์ยกให้เป็นปีกขวาเบอร์ 1แทนที่จะเป็นเดวิด เบคแฮ่ม เพื่อนซี้ของเขา เนื่องจาก ผลงานที่อยู่กับแมนยูไนเตด คริสเตียโน่ได้พัฒนาตัวเองจากนักเตะโนเนมที่แบกความคาดหวังว่าจะเป็นตัวแทนของเดวิด เบคแฮ่มไว้ จนได้รางวัลบัลลงดอร์ในที่สุด คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากสำหรับสรรพคุณในด้านการเล่น ในปี 2003 จอร์จ เบสได้กล่าวไว้ว่า “ผมไม่ได้ยินใครตั้งฉายาให้นักเตะว่ามีการเล่นเหมือนผมมาตั้งนานแล้ว(The new George Best) แต่เด็กคนนี้ก็เป็นน่ายกย่องอย่างนั้นจริงๆ” แต่ปรมาจารย์แห่งยุคชาวดัตช์นามว่าโยฮัน ครัฟฟ์ไม่คิดเช่นนั้น เขากล่าวถึงคริสเตียนโน่ในวัย 23ปี ว่า “เขาเก่งกว่าจอร์จ เบส และเดนิส ลอว์ผู้เคยเป็นตำนานบัลลงดอร์ของแมนยูไปแล้ว” ในช่วงพีคที่สุดของเขากับแมนยูนั้น โรนัลโด้เคยเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2007-08 โดยยิงในลีกไปถึง 31ประตู ทำให้เขาได้รางวัลบัลลงดอร์ครั้งแรกในชีวิตทันที แล้วในปัจจุบันเขากวาดรางวัลนี้โรนัลโด้ได้ไปถึง 4ครั้ง


7.รอย คีน (กองกลาง)

หนึ่งในกัปตันที่เก่งที่ดีสุดตลอดกาลของชาวปีศาจแดง กลายเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาลไอร์แลนด์ กองกลางตัวรับรายนี้มีสไตล์การเล่นที่ค่อนข้าวก้าวร้าว ดุดัน จนกลายมาเป็นกัปตันทีม และศูนย์กลางของทีมตั้งแต่ปี 1997 จนถึงปี 2005 หลังจากที่ได้เข้าร่วมทีมในปี 1993 รอยเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกบรรจุใน 100 นักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเปเล่ และถูกจัดอยู่ในนักเตะที่เหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์อันดับ 11 จาก 50 โดยนิวยอร์ค ไทม์ส ช่วงการค้าแข้งที่ดีที่สุดของเขาคือในปี 1999 โดยเซอร์อเล็กเฟอร์กูสันได้กล่าวชื่นชมเขาว่า “นักเตะที่เสียสละ และรักในการห้ำหั่นอย่างเขา คือนักเตะที่น่ายกย่อง คีนเล่นฟุตบอลอย่างยอมตาย แต่ไม่ยอมแพ้อย่างนี้ ช่วยให้นักเตะรอบข้างในทีมมีแรงบรรดาลใจฮึดสู้บ่อยครั้ง ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับนักเตะแบบนี้” จนกระทั่งรอยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพีเอฟเอไปครองในปี 2000 หลังจากนั้นจนถึงปัจจุบันเฟอร์กูสันก็ยังไม่สามารถหาใครที่มาแทนที่ศูนย์กลางของทีมผู้เสียสละเช่นนี้ได้อีกเลย


8.พอล สโคลส์ (กองกลาง)

เขาคือสุดยอดสัญลักษณ์ของฟุตบอลอังกฤษตลอดกาล และหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นักเตะหัวเหลืองรายนี้ได้เข้ามาในรั้วโอลด์แทรฟฟอร์ดตั้งแต่อายุ 14จากการค้นหาของทีมสเก๊าแมนยูได้ไปส่องเขาที่โรงเรียน จนได้กลายเป็นหนึ่งในนักเตะเยาวชนชุดคลาสออฟ 92 แต่ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 1994-95 พอลเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในตำแหน่งกองกลางยุคนั้น ทั้งจากผู้จัดการทีม และนักเตะ โดยซาบี้ของบาเซโลน่า เคยบอกว่า “เขาคือกองกลางที่ดีที่สุดใน 15-20ปีหลังมานี้ และเขาคือต้นแบบของกองกลางสำหรับผม” และเธียร์รี่ อองรี เคยบอกว่า “ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เขาคือกองกลางที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์” อย่างไรก็ตาม ตำนานรายนี้ก็มีสถิติได้ใบเหลืองมากที่สุดในอันดับ 4ในประวัติศาสตร์โดยได้ไปถึง 97ใบ และในแชมเปี้ยนส์ลีกถึง 32ใบ นับว่าเป็นกองกลางที่เขี้ยวลากดินคนนึงทีเดียว แต่จุดเด่นของเขาคือการจ่ายบอลที่แม่นยำ และลูกยิงระยะไกลที่ทรงพลัง สามารถเล่นได้ทั้ง กองกลางตัวรับ กองกลางตัวรุก และเพลเมคเกอร์ จากความฉลาดในการอ่านเกม อย่างไรก็ตามรางวัลส่วนตัวเขาแม้จะมีน้อยกว่าเพื่อนร่วมทีมที่ประสบความสำเร็จมาด้วยกัน แต่ทุกคนรู้ดีว่าเขาคือที่พึ่งของเพื่อนร่วมทีมเสมอเมื่ออยู่ในสนาม


9.ไรอัน กิ๊กส์ (ปีกซ้าย)

ปีกชาวเวลส์รายนี้ลงอยู่ในดรีมทีมของตัวเองอย่างไร้คู่แข่ง เป็นนักเตะคนเดียวในดรีมทีมนี้ที่ได้รางวัลนักเตะเยาวชนยอดเยี่ยมพีเอฟเอ ได้ถึง 2ครั้งติดต่อกัน และเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จสูงสุดโดยแท้จริง ภายใต้กุนซืออย่างเซอร์อเล็กเฟอร์กูสัน กิ๊กส์ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงแทนที่แดนนี่ วัลเลซ ที่ย้ายออกไป เขามีเทคนิค และเร็วในการเลี้ยงบอลทั้งเข้าด้านใน และออกด้านข้าง การเปิดบอลที่แม่นยำ และการเปลี่ยนความเร็วในการพาบอลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไรอันเป็นนักเตะที่น่ากล้วที่สุดคนหนึ่งสำหรับกองหลัง จนได้รับการยกย่องจากตำนานของทีมชาติอิตาลีว่า “มีนักเตะ 2คนเท่านั้นที่ทำให้ผมร้องไห้ คนแรกคือโรแบรโต้ บาจโจ้ และคนที่ 2คือไรอัน กิ๊กส์” เส้นทางที่โรยด้วยกรีบกุหลาบมาตั้งแต่เริ่มเล่นให้ยูไนเตด คงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องรออีกนานแสนนานกว่าจะมีนักเตะในพรีเมียร์ลีกที่เล่นได้ยาวนาน และกวาดรางวัลได้มากถึงเพียงนี้


10.อีริค คันโตน่า (กองหน้า)

คิง อีริคได้เข้ามาร่วมทีมในช่วงบั้นปลายการค้าแข้ง แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นจุดพีคในอาชีพของเขา อีริคเป็นนักเตะที่มักชอบเล่นด้านหลังของกองหน้าตัวเป้า คอยลงมารับบอลจากแดนกลาง และสร้างสรรค์เกม ทำให้เขาเป็นนักเตะจอมแอสซิสที่ดีที่สุดคนหนึ่งของยูไนเตด ด้วยบุคลิก และร่างกายที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาเป็นที่จดจำของแฟนบอลอย่างรวดเร็ว และเป็นนักจบสกอร์ตัวฉกาจอีกคนหนึ่ง จนทำให้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ในปี 1993 อย่างไรก็ตาม จากการที่อีริคเข้าไปทำร้ายแฟนบอลข้างสนามก็ทำให้เขาโดนจับจำคุกถึง 8เดือนในปี 1995 แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฝีเท้าการเล่นลดลงไปเลย การมาสร้างชื่อได้อย่างยิ่งใหญ่ในโอล์ดแทรฟฟอร์ดทำให้เขาถูกบรรจุว่าเป็นตำนานที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลในนิตยสาร อินไซด์ ยูไนเตด และบางคนเคยเปรียบอีริคเหมือนสตีเว่น ซีกัล ดาราจอมหักกระดูกในตำนานเลยทีเดียว


11.เวย์น รูนี่ย์ (กองหน้า)

เพชรฆาตหน้าหมูกองหน้าจอมถล่มประตู ที่ตอนนี้นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเตด เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงได้ในทีมชาติอักฤษด้วยวัยเพียง 17ปี(จนกระทั่งธีโอ วัลคอตได้ทำลายสถิติลงในภายหลัง) รนี่ย์เป็นนักเตะจอมสร้างสรรค์เกม และเป็นกองหน้าที่มีความดุดัน จากความแข็งแกร่งของร่างกาย และเทคนิคการเล่น นอกจากนี้เขายังสามรถเล่นในตำแหน่งอื่นๆในแนวรุกอีกมากมายอย่าง ปีกซ้ายขวา หน้าต่ำ กองกลางตัวรุก และกองกลางแบบ บ๊อก-ทู-บ๊อก ภายใต้การทำทีมของหลุยส์ ฟานกัล ที่มองเห็นความสามารถในการจ่ายบอล และทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้เวย์นยังได้รับฉายาว่า “วาสซ่า” จากสไตล์การเล่นที่คล้ายกันกับ “แกสซ่า” พอลแกสคอย รวมถึง”เดอะ วอนเดอร์ บอย” และ “เปเล่ขาว” จากสไตล์การเล่นของรูนี่ย์ในวันเยาวที่มีความรวดเร็วมาก จนกระทั่งอาเซน เวนเกอร์ได้กล่าวถึงเขาว่า “รูนีย์คือนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในอังกฤษ ตั้งแต่ผมมาที่อังกฤษยังไม่เคยเห็นเด็กอายุ 20ปีมีเก่งขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่เป็นผู้จัดการทีมมา ”


คิดถึง “แทงบอลออนไลน์ ” คิดถึง “sbobet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *